คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา เดินทางไปพบปะ สนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา เดินทางไปพบปะ สนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 นาฬิกา คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา นำโดย นายพรเพิ่ม ทองศรี ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา และกรรมาธิการได้เดินทางไปพบปะ สนทนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านพลังงานในสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขปัญหาของกระทรวงพลังงาน รวมถึงแผนงานการดำเนินงานในอนาคต ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ให้การต้อนรับ ณ อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น 25 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการด้านพลังงาน (QUICK BIG WIN) ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงพลังงานจะดำเนินการในช่วง 4 เดือนแรก และสอดคล้องกับนโยบายหลักของนายกรัฐมนตรี โดยคณะกรรมาธิการได้มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อสถานการณ์และการพัฒนาด้านพลังงานที่สำคัญดังนี้
1) ควรผลักดันโครงการ SMR โดยการกำหนดเป็นนโยบายให้มีความชัดเจน และระบุไว้ในแผน PDP เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งมีความพร้อมและมีศักยภาพในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมต่อไป ทั้งนี้ ในระยะแรกพิจารณาเห็นว่าพื้นที่ศักยภาพที่ควรริเริ่มเป็น Prilot Project ได้แก่ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็จะทำให้นโยบายเรื่อง Direct PPA สามารถดำเนินการควบคู่ไปด้วย
2) การพัฒนาพลังงาน Hydrogen ในระยะแรกควรริเริ่มส่งเสริม Blue Hydrogen ให้ประสบความสำเร็จก่อน เพื่อพัฒนาต่อยอดไปสู่ Green Hydrogen ในระยะต่อไป เนื่องจากในอนาคตราคา CNG /LNG จะมีราคาแพงขึ้น และมีการจัดเก็บภาษีคาร์บอน TAX/ETS เพื่อควบคุมสิทธิการปล่อยคาร์บอน
3) ควรผลักดันนโยบายโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอย่างต่อเนื่อง และเร่งผลักดันในส่วนโควต้าที่เหลือตามปริมาณที่กำหนดไว้ในแผน PDP 2018 Rev.1 โดยเฉพาะโครงการฯ ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ กพช. ยังไม่มีมติให้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ ดังกล่าว โดยใช้หลักการรับซื้อรูปแบบและเงื่อนไขเดิม ไม่ต้องรอการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ทั้งนี้ การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะในบางพื้นที่ ควรให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เป็นผู้ดำเนินการ (Operator) เพราะมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี ด้านบุคลากร และประชาชนมีความเชื่อใจ
4) ควรส่งเสริมนโยบายโรงไฟฟ้าชีวมวลอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มปริมาณรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เช่น ขยะ ไบโอแมส ใบอ้อย ซังข้าวโพด ซังข้าว ไม้ซับ ทลายปาล์ม ให้เต็มศักยภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะ ลดฝุ่นละออง PM2.5 และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่ทยอยหมดอายุสัญญารับซื้อไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาทบทวนราคารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ต่ออายุสัญญาให้มีความเหมาะสม เป็นธรรม และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวต่อไปได้
5) ทิศทางการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ควรเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียน (RE) ให้มากขึ้น และควรเพิ่มเติมเรื่อง SMR CCS และ Hydrogen ให้มีความชัดเจน
6) ควรส่งเสริมการปลูกพืชสำหรับพลังงาน เช่น ต้นไผ่ เพราะต้นไผ่มีต้นทุนการปลูกน้อยและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน รวมถึงการนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง (Wood Pallet) สำหรับโรงไฟฟ้า ซึ่งจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ั ข้อมูลจากการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาศึกษาและติดตามการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป

Related posts